แหล่งใหญ่ๆอยู่ใต้พื้นดิน พบได้ทั้งบนบกและในทะเล เกิดจากการทับถมของซากพืชและซากสัตว์ดึกดำบรรพ์ มีลักษณะเป็นของเหลวสีเหลือง สีเขียว สีดำ หรือสีน้ำตาลไหม้ ต้องนำไปกลั่นที่โรงกลั่นน้ำมันก่อน เมื่อกลั่นแล้วจะได้น้ำมันเชื้อเพลิงชนิดต่างๆ
องค์ประกอบของน้ำมันดิบ จะแตกต่างกันไปตามแหล่งน้ำมันที่ได้ แต่จะมีองค์ประกอบหลักเป็นสาร คาร์บอน (83-87%) และ ไฮโดรเจน (10-15%) จึงได้ชื่อว่า ไฮโดรคาร์บอน
ปัจจุบันประเทศไทยโดยกระทรวงพลังงาน อนุญาตให้มีการผลิตแก๊สโซฮอล์ 3 ชนิด คือ
1.น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 แบ่งเป็น
1.1 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ออกเทน 91
1.2 น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ออกเทน 95
โดยมีส่วนผสมของเอทานอลไม่เกินร้อยละ 10 และไม่ต่ำกว่าร้อยละ 9 ผสมกับ น้ำมันเบนซินพื้นฐานร้อยละ 90 โดยปริมาตร
2.น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 มีส่วนผสมของเอทานอลไม่เกินร้อยละ 20 และไม่ต่ำกว่าร้อยละ 19 ผสมกับ น้ำมันเบนซินพื้นฐานร้อยละ 80 โดยปริมาตร
3.น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 มีส่วนผสมของเอทานอลร้อยละ 85 ผสมกับ น้ำมันเบนซินพื้นฐานร้อยละ 15 โดยปริมาตรหรือมีเอทานอลไม่ต่ำกว่าร้อยละ75 เอทานอลที่ใช้ผสมจะอยู่ในรูปของเอทานอลแปลงสภาพ
ไบโอดีเซลบริสุทธิ์ (B100) มีค่าซีเทนสูงกว่าน้ำมันดีเซล ไวไฟน้อยกว่า
** ไบโอดีเซล B20 หมายถึง การผสมน้ำมันไบโอดีเซลบริสุทธิ์ในสัดส่วนไม่เกิน 20% โดยปริมาตร กับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว **
** ไบโอดีเซล B7 หมายถึง การผสมน้ำมันไบโอดีเซลบริสุทธิ์ในสัดส่วนไม่เกิน 7% โดยปริมาตร กับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว **
เมื่อมีการก่อสร้างและติดตั้งถังเก็บน้ำมันเชื้อเสร็จจะต้องมีการทดสอบการรั่วซึมของถัง (สำหรับถังใหม่)
ถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงใต้ดินเมื่อใช้งานครบ 10 ปี แล้วจะต้องทำการทดสอบสภาพถังและอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพดีและปลอดภัย (สำหรับถังที่มีอายุ 10 ปี)
เป็นบริษัทผู้ทดสอบและตรวจสอบระดับที่ 1 ตามกฏกระทรวงพลังงาน ปี 2556 และได้รับอนุญาตการขึ้นทะเบียนกับกรมธุรกิจพลังงาน เมื่อปี 2559